จากบ้านเล็กๆ ในชนบทไทย อาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย – อาจิโนะฮิรากิ

読了時間 2 分

จากบ้านเล็กๆ ในชนบทไทย

อาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย – อาจิโนะฮิรากิ

เรื่องราวการทำอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ท่ามกลางบรรยากาศชนบทไทย

อาจิโนะฮิรากิที่ทำด้วยใจจากครัวเล็กๆ ในชนบทไทย

เริ่มต้นเรื่องราวจากครัวเล็กๆ

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมจะพาทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์การทำอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ จากบ้านเล็กๆ ในชนบทจังหวัดเชียงใหม่ การทำ อาจิโนะฮิรากิ หรือปลาอะจิย่างแบบญี่ปุ่นนี้ อาจจะดูเหมือนเรื่องยาก แต่จริงๆ แล้วด้วยเทคนิคที่ถูกต้องและความใส่ใจ เราสามารถสร้างรสชาติที่ถูกต้องตามแบบฉบับได้เลย

การได้อาศัยอยู่ในชนบทไทยทำให้เราต้องปรับตัวในการหาวัตถุดิบและเครื่องปรุงรส แต่นั่นกลับทำให้เราได้เรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์และการทดแทนที่น่าสนใจ วันนี้เราจะมาเรียนรู้ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกปลา การเตรียม จนถึงการย่างให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ

อาจิโนะฮิรากิคืออะไร?

อาจิโนะฮิรากิ （鯵の開き） เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ทำจากปลาอะจิ （Horse Mackerel） ที่ผ่านการเปิดครึ่ง หมักเกลือ และตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาย่างจนได้รสชาติที่หอมหวาน เค็มมัน และมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มชุ่มฉ่ำ

ในประเทศญี่ปุ่น อาจิโนะฮิรากิมักจะเป็นเมนูอาหารเช้าที่ขาดไม่ได้ โดยเสิร์ฟคู่กับข้าวสวย มิโซซุป และผักดอง แต่ที่นี่เราสามารถปรับใช้เป็นอาหารมื้อไหนก็ได้ตามความชอบ และที่สำคัญคือเราสามารถทำได้ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ในประเทศไทย

เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ

ก่อนที่เราจะเริ่มทำกัน มาดูวิธีการทำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น

วิธีการเปิดปลาอะจิแบบมืออาชีพ

เทคนิคการเปิดปลาอะจิแบบญี่ปุ่นแท้

เทคนิคการย่างให้ฟูนุ่ม

วิธีย่างอาจิโนะฮิรากิในกระทะให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ

สไตล์ร้าน “ยามค่ำคืน" จากซีรี่ส์ญี่ปุ่นชื่อดัง

แรงบันดาลใจจากซีรี่ส์ “ยามค่ำคืน" – อาจิโกะฮัง （ข้าวหน้าปลาอะจิ）

วัตถุดิบและการเตรียม

วัตถุดิบหลัก （สำหรับ 2-3 คน）

ปลาอะจิหรือปลาทู
2-3 ตัว （ขนาดปานกลาง）

เกลือทะเล
2-3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช
1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องเสิร์ฟ

หัวไชเท้าขูดฝอย
1/4 ถ้วย

มะนาวหั่นชิ้น
1 ลูก

โชยุ （ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น）
สำหรับจิ้ม

เคล็ดลับการหาวัตถุดิบในไทย

• ปลาอะจิหาได้ที่ตลาดปลาใหญ่ๆ หรือใช้ปลาทูทดแทน
• โชยุหาได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตหรือร้านขายของญี่ปุ่น
• หัวไชเท้าสามารถใช้หัวผักกาดขาวทดแทนได้

วิธีการทำทีละขั้นตอน

1
เตรียมและทำความสะอาดปลา

ล้างปลาให้สะอาด ขูดเกล็ด และควักเอาเครื่องในออก จากนั้นล้างอีกครั้งให้สะอาด เช็ดให้แห้งด้วยกระดาษซับน้ำมัน

ข้อสำคัญ: ปลาต้องแห้งสนิท ไม่เช่นนั้นเกลือจะไม่เข้าเนื้อปลาได้ดี

2
เปิดปลาแบบญี่ปุ่น

วางปลาคว่ำหัวขวาง ใช้มีดคมผ่าตั้งแต่หลังหัวไปจนถึงหาง ผ่าลึกจนถึงกระดูกแต่อย่าให้ขาด แล้วเปิดปลาออกเป็นแผ่นเดียว เอากระดูกสันออก

เทคนิค: ถ้าเป็นครั้งแรก ให้ดูวิดีโอข้างบนประกอบ มือจะคุ้นเคยขึ้น

3
หมักเกลือและตากแห้ง

โรยเกลือทั่วเนื้อปลาทั้งสองด้าน ให้เกลือเข้าเนื้อประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างเกลือออกและเช็ดให้แห้ง แขวนตากลมแดดเบาๆ เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง （ในชนบทไทย เราอาจใช้พัดลมแทนการตากแดดในช่วงที่ฝนตก）

4
ย่างปลาให้สมบูรณ์แบบ

ตั้งกระทะให้ร้อนปานกลาง ทาน้ำมันเล็กน้อย วางปลาด้านหนังลง ย่าง 4-5 นาที จนสีเปลี่ยนเป็นสีทองและหนังกรอบ พลิกด้านแล้วย่างอีก 3-4 นาที

สังเกต: ตาปลาจะเปลี่ยนจากใสเป็นขาวขุ่น แสดงว่าปลาสุกดีแล้ว

5
จัดเสิร์ฟแบบญี่ปุ่น

วางปลาลงในจานเสิร์ฟ เสิร์ฟพร้อมหัวไชเท้าขูดฝอย มะนาวหั่นชิ้น และจิ้มกับโซยุหรือน้ำจิ้มซีฟู้ด ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ

การเก็บรักษา

• เก็บในตู้เย็นได้ 2-3 วัน
• สามารถแช่แข็งได้นาน 1 เดือน
• อุ่นใหม่ในเตาอบเพื่อความกรอบ

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

• โปรตีนสูง ไขมันดี
• อุดมด้วยโอเมก้า 3
• วิตามิน B12 และ D

เทคนิคการย่าง

• ไฟปานกลาง-แรง คือกุญแจ
• ไม่ต้องพลิกบ่อย
• ปรุงน้ำมันแค่เล็กน้อย

การปรับรสชาติ

• เพิ่มน้ำตาลปี๊บเล็กน้อยกับเกลือ
• หมักกับสาเกแทนน้ำ （ถ้ามี）
• ใส่พริกป่นญี่ปุ่นเล็กน้อย

ความหมายทางวัฒนธรรม

อาจิโนะฮิรากิไม่ใช่เพียงแค่อาหารธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นมาเป็นร้อยๆ ปี การทำปลาแห้งเป็นวิธีการเก็บรักษาอาหารแบบดั้งเดิมที่เกิดจากความจำเป็นในการอยู่รอดของชาวประมงในสมัยโบราณ

ในครอบครัวญี่ปุ่น การย่างปลาแห้งในตอนเช้าจะทำให้กลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน เป็นสัญญาณที่บอกให้ทุกคนรู้ว่าอาหารเช้าพร้อมแล้ว กลิ่นนี้เองที่สร้างความทรงจำดีๆ ให้กับเด็กๆ ญี่ปุ่นจนโตเป็นผู้ใหญ่

การที่เราได้ทำอาจิโนะฮิรากิในบ้านเล็กๆ ในชนบทไทย ก็เปรียบเสมือนการเชื่อมโยงวัฒนธรรมสองชาติเข้าด้วยกัน เป็นการสืบทอดประเพณีที่งดงามและการแบ่งปันความรักในอาหารที่ข้ามขอบเขตภูมิศาสตร์

ปิดท้ายด้วยหัวใจ

การทำอาหารญี่ปุ่นในบ้านเล็กๆ ในชนบทไทยอาจจะดูเป็นเรื่องท้าทาย แต่มันกลับเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและให้ความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก เมื่อเราได้สัมผัสกับรสชาติที่ถูกต้องตามแบบฉบับ แม้จะอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินญี่ปุ่นพันกิโลเมตร

อาจิโนะฮิรากิที่เราทำขึ้นด้วยมือเราเอง ด้วยความรักและความใส่ใจ จะมีรสชาติที่แตกต่างจากที่ซื้อมา เพราะในแต่ละชิ้น แต่ละคำ จะมีความทรงจำ ความภาคภูมิใจ และความสุขที่เราสร้างขึ้นเองปะปนอยู่

いただきます（อิตะดะกิมาสุ） – ขอรับประทาน