จากบ้านเล็กๆ ในชนบทไทย】 อาหารญี่ปุ่นที่ทำในประเทศไทย: สปาเก็ตตี้นาโปลิตัน

読了時間 2

 

 

 

【จากบ้านเล็กๆ ในชนบทไทย】

อาหารญี่ปุ่นที่ทำในประเทศไทย: สปาเก็ตตี้นาโปลิตัน

🍝 สูตรอาหาร
🇹🇭 วัฒนธรรมไทย
🇯🇵 อาหารญี่ปุ่น


เขียนจากบ้านเล็กๆ ในชนบทจังหวัดอุบลราชธานี

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน! วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวสุดพิเศษให้ฟัง เรื่องของการทำ “สปาเก็ตตี้นาโปลิตัน" สุดคลาสสิคของญี่ปุ่น ในห้องครัวเล็กๆ ของผมที่ชนบทไทย มันเป็นการผจญภัยทางอาหารที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะต้องหาวัตถุดิบญี่ปุ่นในที่ที่มีแต่น้ำปลา ปลาร้า และน้ำพริกแกงต่างๆ 😅

เรื่องมันเริ่มต้นจากการดู “深夜食堂" (Shinya Shokudo หรือ Midnight Diner) ซีรีส์ญี่ปุ่นสุดฮิตที่เล่าเรื่องราวของร้านอาหารเล็กๆ ที่เปิดในช่วงดึก มาสเตอร์คนเก่งที่ทำอาหารได้ทุกเมนูตามที่ลูกค้าต้องการ และหนึ่งในเมนูที่ทำให้ผมประทับใจสุดๆ ก็คือ “นาโปลิตัน" นั่นเอง


วิดีโอแรงบันดาลใจจาก Midnight Diner

วิดีโอนี้แสดงให้เห็นการทำนาโปลิตันแบบดั้งเดิมที่ปรากฏในซีรีส์ Midnight Diner

นาโปลิตันไม่ใช่อาหารอิตาลีนะครับ แต่เป็นอาหารญี่ปุ่นโดยแท้! มันเกิดขึ้นในญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อเชฟญี่ปุ่นพยายามทำอาหารตะวันตกด้วยวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ได้คือสปาเก็ตตี้ที่ผัดกับเคชั่ป โซเซจ และผัก สีแดงสดใสและรสชาติหวานนิดๆ ที่ต่างจากพาสต้าอิตาลีแบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง

แต่ที่น่าสนใจคือ การทำนาโปลิตันในไทยนี่แหละ! เพราะเราต้องปรับตัวให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่น บางทีอาจจะเป็นการสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งก็ได้ ถ้าญี่ปุ่นดัดแปลงพาสต้าอิตาลี เราก็ดัดแปลงนาโปลิตันญี่ปุ่น เป็นห่วงโซ่ของการผสมผสานวัฒนธรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว!


สูตรนาโปลิตันแบบบ้านๆ (ฉบับชนบทไทย)


วัตถุดิบ (สำหรับ 2 ท่าน)

  • • สปาเก็ตตี้ 200 กรัม
  • • ไส้กรอกหมู 4 ชิ้น (หาไส้กรอกญี่ปุ่นไม่ได้ก็ใช้ไส้กรอกไทยได้)
  • • หัวหอมใหญ่ 1 หัว
  • • พริกหวานแดง 1/2 ลูก
  • • พริกหวานเหลือง 1/2 ลูก
  • • เห็ดนางฟ้า 3-4 ดอก
  • • เคชั่ป 4-5 ช้อนโต๊ะ
  • • ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
  • • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • • เกลือ พริกไทย
  • • น้ำมันพืช
  • • ผักชีฝรั่งสำหรับตกแต่ง


วิธีทำ

  1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือนิดหน่อย แล้วลงสปาเก็ตตี้ ต้มตามเวลาที่บอกไว้บนซอง
  2. ขณะที่ต้มเส้น ให้หั่นไส้กรอกเป็นชิ้นเฉียง หัวหอมหั่นแถบ พริกหวานหั่นแถบ เห็ดหั่นชิ้น
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ผัดไส้กรอกให้สุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้
  4. ใส่หัวหอมลงกระทะเดิม ผัดให้หอม ตามด้วยพริกหวาน และเห็ด
  5. ใส่เคชั่ปและซอสมะเขือเทศ ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย
  6. ใส่สปาเก็ตตี้ที่สุกแล้วลงกระทะ ผัดให้เข้ากัน
  7. ใส่ไส้กรอกที่ผัดไว้ ผัดอีกครั้งให้ทุกอย่างเข้ากัน
  8. ตักใส่จาน โรยผักชีฝรั่ง พร้อมเสิร์ฟ!


เทคนิคการดัดแปลงให้เข้ากับไทยเรา

🌶️ เพิ่มความเผ็ด

คนไทยเราชอบเผ็ด! ลองเพิ่มพริกขี้หนูสดหั่นละเอียด 2-3 เม็ด หรือจะใส่พริกแกงเผ็ดนิดหน่อยก็ได้
จะทำให้รสชาติมีมิติใหม่ที่แตกต่างจากต้นตำรับ

🥬 ผักไทยเพิ่มเติม

ลองเพิ่มผักที่หาง่ายในไทย เช่น ถั่วฝักยาวหั่นชิ้น มะเขือเทศราชินี กะหล่ำปลีหั่นแถบ
จะช่วยเพิ่มความกรอบและสีสันให้กับจาน

🍤 โปรตีนทางเลือก

หาไส้กรอกดีๆ ยาก? ลองใช้กุ้งสด หมูยอ หรือแม้แต่ไข่ดาวก็อร่อยมาก!
แต่ละแบบจะให้รสชาติที่แตกต่างกันไป

🧄 เคล็ดลับรสชาติ

เพิ่มกระเทียมเจียวสักหน่อย หรือจะใส่หอมแดงแทนหอมใหญ่ก็ได้
จะทำให้กลิ่นหอมแบบไทยๆ เข้าไปผสม


เรื่องเล่าของการผสมผสานวัฒนธรรม

รู้มั้ยครับว่า การที่เราคนไทยมาทำนาโปลิตันกัน มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะมันเป็นการต่อยอดเรื่องราวของการผสมผสานวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคหลังสงคราม เมื่อญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากตะวันตก แล้วสร้างสรรค์อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

แล้วพอมาถึงยุคปัจจุบัน เมื่อโลกเชื่อมต่อกันมากขึ้น เราก็ได้เรียนรู้และดัดแปลงอาหารจากทั่วโลกมาเป็นแบบไทยๆ เหมือนกับที่เราทำกับแกงกะหรี่ที่มาจากอินเดีย หรือขนมปังที่มาจากโปรตุเกส แต่กลายเป็นขนมปังสังขยาที่คนไทยรู้จักกันดี

🍜 ความเหมือนของ “อาหารปลอบใจ"

สิ่งที่น่าทึ่งคือ ทั้งนาโปลิตันของญี่ปุ่นและอาหารไทยหลายอย่าง มีจุดร่วมคือการเป็น “comfort food" หรืออาหารปลอบใจ
เหมือนข้าวผัดของเรา หรือต้มยำกุ้งที่กินแล้วรู้สึกเหมือนกลับบ้าน นาโปลิตันก็เป็นแบบนั้นสำหรับคนญี่ปุ่น
รสชาติที่คุ้นเคย หวานนิดๆ เหมือนความทรงจำในวัยเด็ก

ตอนที่ผมทำนาโปลิตันในครัวเล็กๆ ที่บ้าน ท่ามกลางเสียงลิงกินกล้วยข้างนอกหน้าต่าง และกลิ่นใบมะขามที่ลมพัดเข้ามา
ผมรู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ของอาหาร ที่สามารถเชื่อมโลกให้เข้าหากันได้ แม้เราจะอยู่ห่างกันเป็นพันๆ กิโลเมตร
แต่ความรู้สึกตอนได้กินอาหารที่ทำด้วయความรัก มันเหมือนกันทุกที่ในโลก

“อาหารไม่ใช่แค่การเติมเต็มความหิว แต่เป็นการเชื่อมต่อระหว่างคน ระหว่างวัฒนธรรม
และระหว่างอดีตกับปัจจุบัน นาโปลิตันจานเล็กๆ นี้ เล่าเรื่องราวได้มากมายจริงๆ"


ประสบการณ์ส่วนตัวกับนาโปลิตัน

ครั้งแรกที่ผมลองทำ มันออกมาเค็มจัด! เพราะลืมปรับปริมาณเกลือ เคชั่ปแบรนด์ไทยเราเค็มกว่าของญี่ปุ่น
ครั้งที่สองก็หวานเกินไป เพราะใส่น้ำตาลมากเกินขณะที่พยายามหาความสมดุล แต่พอครั้งที่สาม…
เพอร์เฟค! รสชาติออกมาพอดีกับปากคนไทย หวานนิดๆ เปรี้ยวนิดๆ และมีความเค็มที่ลงตัว

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากคือ เมื่อเพื่อนบ้านมาลองชิม ป้าที่อยู่ข้างบ้านบอกว่า “รสชาติแปลกดี เหมือนข้าวผัดแต่เป็นเส้น"
แล้วลุงที่มาส่งไข่ไก่บ้านก็บอกว่า “หวานๆ เปรี้ยวๆ แบบนี้ ทำให้เด็กกินแน่ๆ" มันทำให้ผมคิดได้ว่า
อาหารที่ดีจริงๆ คือที่ทำให้คนอยากกินและรู้สึกอบอุ่น ไม่ใช่แค่การเลียนแบบต้นตำรับ

 

เวลาในการทำ

20-25 นาที

 

ค่าใช้จ่าย

80-120 บาท

 

สำหรับกี่คน

2-3 คน


เคล็ดลับสุดท้ายจากครัวชนบท

🔥 เรื่องของไฟ

ใช้ไฟแรงตอนผัด แต่ระวังอย่าให้เคชั่ปไหม้ เพราะจะขม ถ้าเคชั่ปเริ่มแห้งเกินไป ใส่น้ำเล็กน้อย

🍝 เรื่องของเส้น

ต้มเส้นให้ al dente (เคี้ยวหนึบ) เพราะจะได้ไม่ยุ่ยตอนผัด เก็บน้ำต้มเส้นไว้นิดหน่อย ใช้ปรับความชื้น

🧂 เรื่องของเกลือ

ชิมรสบ่อยๆ เพราะเคชั่ปแต่ละแบรนด์ความเค็มไม่เท่ากัน อย่าเพิ่งใส่เกลือเยอะตั้งแต่แรก

💝 เรื่องของใจ

สำคัญที่สุด! ทำด้วยความรัก เพราะอาหารที่ทำด้วยใจ รสชาติจะออกมาแตกต่าง ลองดูแล้วจะรู้


ท้ายทายเก้อ…

นาโปลิตันจานนี้สอนผมได้หลายอย่างเลย ทั้งเรื่องความอดทน การปรับตัว และที่สำคัญคือการเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆ
ใครจะคิดว่าอาหารญี่ปุ่นจะมาอร่อยในครัวชนบทไทยได้ขนาดนี้!

ถ้าเพื่อนๆ ใครอยากลองทำ อย่าลังเลเลยนะครับ เริ่มต้นจากสิ่งที่มี ปรับไปตามสไตล์ตัวเอง
แล้วอย่าลืมแชร์ประสบการณ์มาเล่าให้ฟังด้วย จะได้เป็นครอบครัวนาโปลิตันไทยๆ กัน 😄

เขียนด้วยความรักจาก

บ้านเล็กๆ ในชนบทอุบลราชธานี 🏡

ที่ไหนมีความรัก ที่นั่นมีรสชาติ


ทำด้วยรัก


เชื่อมโลก


ธรรมชาติ

© 2024 จากบ้านเล็กๆ ในชนบทไทย | สร้างด้วยความรักต่ออาหารและวัฒนธรรม